“ความเจริญของประเทศชาติ เป็นความเจริญส่วนรวม ซึ่งเกิดจากผลงานหรือผลของการกระทำของคนทั้งชาติ ถือได้ว่าทุกคนแบ่งหน้าที่กันทำประโยชน์ให้แก่ชาติ ตามความถนัดและความสามารถ และเกื้อกูลกันและกัน ไม่มีผู้ใดจะอยู่ได้และทำงานให้แก่ประเทศชาติได้โดยลำพังตนเอง”
พระบรมราโชวาทของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว… (1)
(ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 10 กรกฎาคม 2513)
สวัสดีครับก็มีโอกาสอันดีครับที่จะน้อมรับพระราชดำรัสของในหลวงมาเขียนและเตือนสติให้กับตัวของตัวเอง “ความเจริญของประเทศชาติ เป็นความเจริญส่วนรวม” เป็นคำสั้น ๆ ของพระองค์ท่านที่อยากให้เราเห็นว่าการช่วยเหลือกัน การทำหน้าที่ของแต่ละคนก็เป็นการช่วยประเทศชาติอยู่ในตัวเองอยู่แล้ว หลาย ๆ คนอาจจะมีทักษะ หรือความถนัดแตกต่างกัน ก็สามารถช่วยเหลือประเทศชาติ อาทิเช่นหลายคนอาจจะถนัดในการทำธุรกิจ เมื่อท่านได้ก่อตั้งธุรกิจ ก็จะมีอีกหลายคนได้มีโอกาสได้ทำงาน เมื่อเขาได้ทำงาน เขาก็มีกินมีใช้ มีเลี้ยงปากเลี้ยงท้องในครอบครัว
เมื่อมีกินมีใช้ มีเลี้ยงครอบครัว มีความพอดิบพอดี ก็นำมาซึ่งความสุข ความเจริญ ในเมื่อคนในประเทศมีความสุข ประเทศชาติก็มีความสงบสุขตามไปด้วย โดยไม่มีปัญหา ลดภาระอันหนักอึ้งของประเทศลงไปได้เป็นจำนวนมาก หลายต่อหลายพระราชดำรัสของในหลวง พระองค์ทรงเห็นแจ้งรู้จริงว่าสิ่งใด เหมาะสมและมีประโยชน์ต่อราษฎร ในบทความหน้าผมก็จะมาเขียนให้อ่านถึงเรื่องพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านนะครับ http://www.rdpb.go.th/rdpb/ สำหรับใครสนใจเรื่องเศรษฐกิจพอเพียง หรือต้องการศึกษาโครงการพระราชดำริ แนะนำเว็บไซต์สำนักงาน กปร. เลยครับ